โดย เอ็ดมันด์ ไซครอฟสกี้
คงเป็นเรื่องง่าย ผมนึกขณะที่เตรียมเข้ามัธยมปลาย ผมไม่คาดว่าจะมีปัญหากับการผูกมิตรหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้น น่าเสียดายที่ว่าผมหมดความมั่นใจในวันแรกที่ไปโรงเรียน เมื่อเจอเด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆ ผมในห้องเรียน ฌอนสูงไล่เลี่ยกับผม แต่หนักกว่าผมสองเท่า เขาไม่ใส่ใจกับการเรียน ไม่เคยอ่านหนังสือสอบ เขาตะคอกและสบถ ทั้งต่อคุณครูและนักเรียน เขาคุยโวไม่หยุดเกี่ยวกับเกมคอมพิวเตอร์ใช้ความรุนแรงที่เขาเล่น และแรงชักจูงจากเกมที่เห็นได้ชัด ในพฤติกรรมโมโหโทโสและบ่อนทำลายของเขา ผมเริ่มนึกทันทีว่าไม่ต้องการนั่งข้างๆ เขา
หลายสัปดาห์ผ่านไป ดูเหมือนว่าฌอนแย่ลงทุกที เขาสอบตกเกือบทุกวิชา เขาชกต่อยกับเพื่อนร่วมชั้นทุกวัน เขาไม่มีเพื่อน ผมพยายามทำตัวสุภาพ แต่อยู่ห่างๆ
วันหนึ่งตอนอาหารกลางวัน ที่นั่งข้างๆ ฌอนเป็นที่ว่างเดียวในโรงอาหาร ผมฝืนใจนั่งลง เราคุยกัน ระหว่างการสนทนาสั้นๆ ที่ตามมา ผมพบว่าพ่อของฌอนเสียชีวิตตอนที่เขายังเล็กมาก แม่ของเขาทำงานกะดึก ส่วนใหญ่เขาต้องอยู่บ้านคนเดียว และมีโอกาสอยู่กับแม่ช่วงสุดสัปดาห์เท่านั้น ผมละอายใจที่ตัดสินเขาด้วยทัศนคติแข็งกร้าว ผมจึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะเอื้อเฟื้อฌอน ถึงแม้ว่านั่นจะขัดกับแนวโน้มตามปกติของผม ตอนแรกความพยายามของผมเจอแต่การปฏิเสธ เยาะเย้ย และคำสบถที่ดูถูกดูหมิ่น ผมได้ทราบว่าฌอนเคยถูกรังแกอย่างรุนแรงในอดีต ดูเหมือนว่าเพื่อเป็นการปกป้องตัวเอง เขาจึงได้พัฒนาเปลือกนอกที่แข็งกร้าวและไร้ความรู้สึก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรวมเขาไว้ด้วย เมื่อใดก็ตามที่เราเลือกทีม และก็ยากที่จะพยายามผูกมิตรกับเขา เมื่อความพยายามของผมได้รับคำเหยียดหยามตอบแทน บ่อยครั้งผมอดไม่ได้ที่จะโมโห และนึกสงสัยว่าคุ้มค่าหรือไม่กับความยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายเดือนผ่านไป ฌอนค่อยๆ เป็นมิตรมากขึ้น สี่เดือนหลังจากการสนทนากันครั้งแรก เช้าวันหนึ่งในโรงอาหาร ฌอนยืนกรานที่จะจับคู่กับผมเพื่อทำกิจกรรมในชั้นเรียน ผมตกใจ “นายพูดบ่อยๆ ว่าไม่อยากเห็นหน้าฉันอีก” ผมบอกเขา “ไม่จริง!” เขาตอบ ด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง “นายเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน เป็นคนเดียวที่ห่วงใยฉัน ฉันอยากให้เราเป็นเพื่อนกันเสมอไป”
วันนั้นผมไม่เพียงได้รับมิตรภาพที่ยั่งยืน ทว่าผมค้นพบความจริงอันล้ำค่าด้วย ไม่ว่าคนเราจะทำตัว มีสีหน้าท่าทาง หรือพฤติกรรมอย่างไร ทุกคนต้องการได้รับความรักและการยอมรับ ภายใต้เปลือกนอกที่ขรุขระและแข็งกร้าว บ่อยครั้งมีต้นอ่อนรอคอยที่จะเบ่งบาน ถ้อยคำที่บอกกล่าวด้วยน้ำใจ และการกระทำที่ประกอบด้วยความรัก ส่งผลต่อจิตใจคนเรา เช่นเดียวกับแสงแดดส่งผลต่อดอกไม้ อาจใช้เวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ บางครั้งก็หลายเดือนหรือหลายปีด้วยซ้ำ กว่าจะได้เห็นผลลัพธ์จากความพยายามของเรา แต่วันหนึ่งบุคคลผู้นั้นจะเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบาน
Text adapted from Activated magazine. Used by permission.
Photo credits: Image 1: Kirimatsu via DeviantArt.com; used under CC license. Image 2: Flamespeedy via DeviantArt.com; used under CC-NC license. Image 3: Heximer via DeviantArt.com; used under CC license.
0 Comments
Leave a Reply. |
Categories
All
Archives
November 2024
|